สถานทูตในเปียงยางยังไม่อพยพเจ้าหน้าที่ตามคำเตือน “โสมแดง”
รอยเตอร์ - สถานทูตประเทศต่างๆในกรุงเปียงยางยังไม่มีการเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ใน วันนี้(6) แม้จะได้รับคำเตือนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือให้อพยพเจ้าหน้าที่ทูตออกไปก่อนวัน ที่ 10 เมษายนก็ตาม ในขณะที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุขึ้นทุกขณะจากการแถลงข่มขู่ ระหว่างฝ่ายโสมแดงกับฝ่ายสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ทางการเกาหลีเหนือแจ้งไปยังสถานทูตต่างๆว่า รัฐบาลไม่สามารถรับรองความปลอดภัยให้ได้ตั้งแต่วันพุธที่ 10 เมษายนเป็นต้นไป หลังมีการประกาศ “ภาวะสงคราม” กับเกาหลีใต้ เพื่อตอบโต้การซ้อมรบประจำปีระหว่างสหรัฐฯและโซลที่จะดำเนินต่อไปจนถึงสิ้น เดือนนี้ แต่ที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ซึ่งมีฝนโปรยปรายยังอยู่ในภาวะสงบ การจราจรยังคับคั่งไปด้วยผู้คนที่ออกไปจับจ่ายซื้อของในช่วงสุดสัปดาห์ สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งระบุว่า นักการทูตต่างชาติยังไม่ถือเอาคำเตือนอพยพของเกาหลีเหนือเป็นเรื่องจริงจัง นัก “เราไม่คิดว่าจะมีนักการทูตกลุ่มไหนเดินทางออกจากเปียงยาง... รัฐบาลต่างชาติส่วนใหญ่มองออกว่าประกาศเตือนนี้เป็นเพียงกลยุทธ์ที่เกาหลี เหนือใช้โหมกระพือความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเท่านั้น” เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ กล่าว รัฐบาลเกาหลีเหนือโกรธแค้นที่ถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกมติคว่ำบาตรการทดลองระเบิดนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ และยิ่งไม่พอใจที่สหรัฐฯและเกาหลีใต้เปิดกิจกรรมซ้อมรบร่วมเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหวาอ้างคำแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศจีนเมื่อวาน นี้(5)ว่า คำถามสำคัญในวันนี้มิใช่สงครามจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่จะเกิด “เมื่อใด” แม้หลายประเทศจะมองว่าเกาหลีเหนือเพียงส่งสัญญาณเตือนให้กลัวเท่า นั้น แต่รัสเซียกลับแถลงว่า พวกเขาพิจารณาคำเตือนของเปียงยาง “อย่างจริงจัง” ด้านองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าไปปฏิบัติภารกิจมนุษยธรรมในเกาหลีเหนือยังคงทำงานตาม ปกติ อย่างไรก็ดี เลขาธิการใหญ่ บัน คี มูน แสดงความ “กังวลอย่างยิ่ง” ต่อสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นหลังจาก ยูเอ็น ลงดาบคว่ำบาตรโสมแดงครั้งล่าสุด ก่อนหน้านี้ สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า ผู้นำ คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือ สั่งให้มีการเคลื่อนย้ายขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกไปไว้ที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ทำเนียบขาวก็มีถ้อยแถลงทำนองว่า “ไม่แปลกใจ” หากเกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งในเร็วๆนี้