“หอพระแก้ว” โทรมหนักลาว วางแผนบูรณะใหญ่ในรอบ 70 ปี
ทางการลาวได้ออกแผนการบูรณปฏิสังขรณ์หอพระแก้วเวียงจันทน์ ซึ่งเคยเป็นวัดเก่าแก่คู่ราชบัลลังก์อดีตกษัตริย์ และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาพทรุดโทรมเนื่องจากผุพังในหลายจุด หลังจากเวลาผ่านไป 70 ปี นับตั้งแต่ก่อสร้างขึ้นใหม่ครั้งล่าสุดในยุคอาณานิคม และผ่านการบูรณะย่อยมาครั้งหนึ่งเมื่อ 20 ปีที่แล้ว การบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งนี้อาจจะต้องใช้งบประมาณถึง 7,000 ล้านกีบ (27.7 ล้านบาท) สื่อ ของทางการรายงาน อ้างผลการสำรวจ และประเมินโดยคณะกรรมการชุดหนึ่ง ซึ่งเห็นพ้องกันภายหลังได้ลงเก็บข้อมูลข้อเท็จจริงในพื้นที่ สำนักข่าวสารปะเทดลาวกล่าว “โครงการปฏิสังขรณ์หอวัดพระแก้ว รวมเป็นงาน 3 แขนงใหญ่เพื่อปรับปรุงสภาพที่ทรุดโทรมอันเกิดมาจากการก่อสร้างเป็นเวลาหลาย ทศวรรษ ถ้าอิงตามการสำรวจตรวจตราเก็บข้อมูลทางด้านวิชาการ และคิดประเมินมูลค่าปฏิสังขรณ์จะต้องใช้งบประมาณถึง 7,000 ล้านกีบ” ขปล.กล่าว การลงเก็บข้อมูลจากสถานที่จริงระหว่างวันที่ 2-5 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้พบจุดที่จะต้องซ่อมแซมซึ่งประกอบด้วย ส่วนหลังคาที่ผุกร่อนถึง 80% ต้องปรับเปลี่ยนกระเบื้องดินเผามุงหลังคาที่รั่วซึมเวลาฝนตก จะต้องเปลี่ยนกระเบื้องใหม่ถึง 50% ที่เหลือของเดิมยังมีสภาพดี และอาจจะต้องทำช่อฟ้าใหม่โดยรักษารูปร่างเดิม และต้องติดตั้งสายล่อฟ้ากันฟ้าผ่าเพิ่มเติม โครงเพดานของหอพระแก้วยังมีสภาพดี เพียงแต่มีแผ่นไม้เพดานในบางบริเวณที่โป่งพอง นอกจากนั้น ภาพเขียนบนเพดาน และลวดลายวิจิตรต่างๆ มีสภาพเลือนราง เนื่องจากสีซีดจางลง มองเห็นไม่ชัดต้องเขียน หรือระบายสีใหม่ สำหรับตัวอาคารจะต้องซ่อมแซมบานประตู ซุ้มหน้าต่าง แท่นพระประธาน ซ่อมแซมระเบียง ฯลฯ ซึ่งการฟื้นฟูบูรณะ และปฏิสังขรณ์ทั้งหมดนี้จะให้แล้วเสร็จในปี 2558 ขปล.กล่าว ตามประวัติศาสตร์ของฝ่ายลาว พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในเวียงจันทร์เป็นเวลากว่า 200 ปี นับตั้งแต่สมเด็จพระเจ้าไซเสดถาทิลาด (ไชยเชษฐาธิราช) มีพระราชประสงค์ให้สร้างวัดพระแก้วขึ้นในปี พ.ศ.2108 เพื่อให้เป็นพระอารามหลวง และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ทรงอัญเชิญไปจากนครเชียงใหม่ (ล้านนา) เมื่อต้องเสด็จฯ กลับไปครองนครจันทะบูลีศรีสตนาคนหุต แต่ก็เป็นเวลากว่า 230 ปีมาแล้ว ที่ภายในหอพระแก้วเหลือเพียงแท่นประดิษฐาน พระแก้วมรกตถูกอัญเชิญไปประทับที่กรุงธนบุรี ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก