เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีล่อลวงค้าประเวณี อ.3885/53 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายไพโรจน์ หรือโรจน์ สุขพิทักษ์ อายุ 49 ปี ชาว จ.ลพบุรี เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 7 คน คือนายสุพจน์ หรือ เอ ชัยหา อายุ 43 ปี ชาว จ.นครนายก ,นายอนุดิษฐ์ หรือเดียว เลิศล้น อายุ 29 ปี ชาว จ.ลพบุรี ,นายคนอง หรือต๊อง เชี่ยวชาญ อายุ 52 ปี ชาว จ. สระบุรี นายทองสุข หรือสุข ทรัพย์นิมิต อายุ 48 ปี ชาว จ.ลพบุรี นายวีระ หรือระ อิ่มสำราญ อายุ 48 ปี ชาว จ.ลพบุรี ,นายธนารัตน์ หรือเอ็ม วัฒนา อายุ 24 ปี ชาว จ. ลพบุรี และนายภานุวงศ์ หรือ นุ ทองสินธุ อายุ 23 ปี ชาว จ.ลพบุรี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 - 8 ตามลำดับ
ในความผิดฐาน ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ออกอุบาย ล่อลวง เป็นธุระจัดหา ล่อไป พาไป หญิงอายุ ไม่เกิน 15 ปี และหญิงอายุกว่า 18 ปี เพื่อค้าประเวณี ทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และอื่นๆ ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 53 ระบุความจำเลยสรุปว่า
ระหว่างเดือน มิ.ย.52 - 2 ส.ค. 53 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ร่วมกับชาวไทยและชาวลาว ที่ยังหลบหนีได้ออกอุบาย หลอกลวงหญิงสาวชาวลาวอายุ 14 ปี เศษ - 18 ปีเศษ จาก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) 15 คนเดินทางเข้าราชอาณาจักรทาง จ.เลย และ หนองคาย เพื่อมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ และ พนักงานนวดแผนโบราณ โดยจะมีรายได้ดี แต่จำเลยที่ 1 กลับบังคับขู่เข็ญให้ผู้เสียหายทั้งหมดมาค้าประเวณีที่ ร้านธนาธิป คาราโอเกะ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของ ส่วนจำเลยที่ 2 - 8 เป็นลูกน้องมีหน้าที่ดูแลร้าน เชียร์แขก พา ผู้เสียหายไปค้าประเวณีนอกสถานที่ หน่วงเหนี่ยวกักขังไม่ให้ผู้เสียหายหลบหนี
นอกจากนี้หากผู้เสียหายคนใดขัดขืนก็จะถูกจำเลยที่ 1 ทำร้ายตบ เตะต่อยศีรษะ ลำตัวอย่างรุนแรง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้า มนุษย์(บก.ปคม.) รับแจ้งว่ามีหญิงชาวลาวถูกล่อลวงมาค้าประเวณีที่ร้านดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าจับกุมพวกจำเลยและช่วยเหลือผู้เสียหาย เบื้องต้นพวกจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพในชั้นศาล
ศาลพิเคราะห์แล้ว ฝ่ายโจทก์มีผู้เสียหายเป็นประจักษณ์พยานข้าเบิกความยืนยันด้วยตัวเองว่า ถูกจำเลยที่ 1 ล่อลวง มาบังคับค้าประเวณี โดยมีจำเลยที่ 2 - 8 เป็นคนคอยช่วยเหลือดูแล อันมีลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายด้วยความทารุณโหดร้ายทั้งร่างกายและจิตใจด้วยวิธี การต่าง ๆ และเป็นการกระทำผิดศีลธรรมอันดี เห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบทพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 126 ปี แต่ คงให้จำคุกไว้ 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนจำเลยที่ 2 - 8 ให้จำคุกคนละ 25 ปี .
ກົດໝາຍໄທເຄັ່ງປານນັ້ນພຸ້ນເນ໊າະ ! ກົດໝາຍລາວກໍ່ມີຢູ່ຫວາຄະດີແນວນີ້?