‘เวียดนาม’หวาดกลัวว่าจะสูญเสีย‘ลาว’
ทางการฮานอย “กำลังรู้สึกว่าตนเองถูกคุกคาม” จากการที่มีทุนจีนและทุนไทยเข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในลาวซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มี “ความสัมพันธ์พิเศษ” กับเวียดนาม และกำลังวิตกกังวลว่า ทั้งสองชาติดังกล่าวนี้จะโค่นบัลลังก์ตนเองและช่วงชิงตำแหน่งนักลงทุนอันดับ สูงสุดในแดนลาวไปครอบครอง ทั้งนี้ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์ลาว วิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาลาว ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งของลาวว่า ทางการฮานอย “กำลังรู้สึกว่าตนเองถูกคุกคาม” จากการที่มีทุนจีนและทุนไทยเข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในลาวซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มี “ความสัมพันธ์พิเศษ” กับเวียดนาม และกำลังวิตกกังวลว่า ทั้งสองชาติดังกล่าวนี้จะโค่นบัลลังก์ตนเองและช่วงชิงตำแหน่งนักลงทุนอันดับ สูงสุดในแดนลาวไปครอบครอง ความวิตกกังวลดังกล่าวนี้ปรากฏออกมาในสารฉบับหนึ่งที่สำนักเลขาธิการ ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ส่งไปให้แก่สำนักเลขาธิการของพรรคคอมมิวนิสต์ลาว เจ้าหน้าที่ชาวลาวผู้นี้เปิดเผยกับวิทยุเอเชียภาคภาษาลาวโดยตั้งเงื่อนไขว่า จะต้องสงวนนามของเขาเอาไว้เป็นความลับ ทั้งนี้พรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศทั้งสองต่างก็เป็นพรรคที่ครองอำนาจปกครอง อยู่ในแต่ละประเทศ สารฉบับดังกล่าวเป็นการย้ำยืนยันอีกครั้งว่า เวียดนามมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นนักลงทุนต่างประเทศอันดับหนึ่งในลาวต่อไป ตลอดระยะเวลาหลายๆ ปีข้างหน้านี้ นี่เป็นคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ผู้นี้ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งในคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ของลาว อันมีนามอย่างเป็นทางการว่า พรรคประชาชนปฏิวัติลาว เจ้าหน้าที่ผู้นี้ระบุว่า เวียดนามกำลังรู้สึกถูกคุกคามว่า เม็ดเงินลงทุนของจีนและของไทย ซึ่งเป็นอีก 2 ชาตินักลงทุนชั้นนำในแดนลาวนั้น จะมีการขยายตัวใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแซงหน้าการลงทุนของเวียดนาม สำหรับในปีนี้นั้น เวียดนามยังคงมีฐานะเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับหนึ่งในลาว โดยที่กำลังนำเงินทุนเข้าไปในลาวเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในโครงการต่างๆ รวม 449 โครงการ ขณะที่ไทยและจีนไล่มาติดๆ ในอันดับ 2 และอันดับ 3 ตามลำดับ โดยที่ประเทศทั้งสามรายนี้ ต่างกำลังแข่งขันช่วงชิงกันเพื่อเข้าลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งในภาคพลังงาน, เหมืองแร่, และการเกษตรของลาว ประเทศไทยนั้นมีโครงการลงทุนในลาวทั้งสิ้น 760 โครงการคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนรวมแล้วมากกว่า 4,800 ล้านดอลลาร์ ส่วนประเทศจีนก็มีโครงการมากกว่า 800 โครงการอยู่ในลาวซึ่งมูลค่ารวมทั้งสิ้นอยู่ในระดับประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์ เวียดนามกำลังวางแผนการที่จะเพิ่มการลงทุนของตนในแดนลาวให้ขึ้นสู่ระดับ 7,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2015 ลาวกับเวียดนาม ซึ่งได้ลงนามในข้อตกลงความสัมพันธ์มิตรไมตรีอันเป็นพิเศษและความร่วมมือกัน เป็นพิเศษระหว่างกันมาตั้งแต่ปี 1978 นั้น ในระยะไม่กี่ปีหลังมานี้ยังได้เสนอให้มาตรการจูงใจเพื่อส่งเสริมการลงทุนแก่ กันและกัน รวมทั้งมีการลดหย่อนงดเว้นภาษีเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการลงทุนและการค้า ระหว่างกันอีกด้วย ประเทศทั้งสองวางแผนการกันไว้ว่าจะเพิ่มการค้าทวิภาคีจากระดับประมาณ 725 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขึ้นไปเป็น 2,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2015 และเป็น 5,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 ตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์ (Vientiane Times) ทั้งนี้ แขวงจำปาสัก ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของลาว และมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการท่องเที่ยว, กิจกรรมทางสังคม, และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ คือพื้นที่ซึ่งสามารถดึงดูดนักลงทุนได้มากที่สุดในแดนลาว นอกเหนือจากเวียดนาม, ไทย, และจีนแล้ว นักลงทุนต่างชาติชั้นนำอื่นๆ ที่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากในลาวในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ยังประกอบด้วยเกาหลีใต้, ฝรั่งเศส, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์, และสหรัฐอเมริกา