เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา พล.ต.ต.ธกฤต สิทธิประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ( รอง ผบช.ภ.3 ) พร้อม พ.ต.อ.สมพรรค อักขราสา ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมา ( ผกก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา ) ,พ.ต.ท.ธีระชัย ชำนาญหมอ รองผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ( รอง ผกก.ภ.จ.นครราชสีมา ) ฐานะ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ กำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ ได้ควบคุมตัวนายสาคร หรือชาลี ศิลาเลิศ อายุ 51 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 87 หมู่ 1 ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี และนายวรวัฒน์ หรือรอง รักไทย อายุ 25 ที่อยู่ บ้านเลขที่ 110 หมู่ 1 ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี สองผู้ต้องหาครอบครองยาบ้าจำนวนมาก มาขยายผลการจับกุมเพิ่มเติม ตามเบาะแสจากสายลับระบุเป็นขบวนการใหญ่ลักลอบลำเลียงยาบ้าจากแนวชายแดน ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำมาส่งให้เครือข่ายเขตภาคกลาง
พล.ต.ต ธกฤต ฯ รอง ผบช.ภาค 3 เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลทางลับระบุนายสาครได้ลักลอบขนยาบ้า โดยใช้เส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ สนง.ตำรวจภูธรภาค 3 เป็นทางผ่านไปยังเขตภาคกลาง จึงสนธิกำลังวางแผนจับกุม จนกระทั่งพบยานพาหนะต้องสงสัยกำลังแล่นผ่าน จึงแสดงตัวเข้าปิดล้อมบริเวณเส้นทางเลี่ยงเมือง ถ.จอหอ-สามแยกปักธงชัย ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 14 -15 ต.จอหอ อ.เมือง ฯ เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ พยายามเร่งความเร็วหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ได้สกัดจับไว้ได้โดยละม่อม ตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้าจำนวน 56,000 เม็ด บรรจุเป็นมัดอยู่ในถุงปุ๋ยซุกซ่อนอยู่ด้านหลังเบาะนั่ง
ปากคำเบื้องต้น นายสาคร ผู้ต้องหา อ้างประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างตามพื้นที่ต่างๆ ในเขตอีสานใต้ โดยมีนายวรวัฒน์ เป็นผู้ติดตาม แต่ธุรกิจขาดทุนย่อยยับ ต้องหาเงินมาใช้หนี้ โดยมีคนติดต่อให้รู้จักนายทุนชาวลาว ได้ว่าจ้างให้ไปรอรับยาบ้าจากเครือข่ายบริเวณริมแม่น้ำโขง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อตระเวนส่งยาบ้าให้ลูกค้าตามออเดอร์ ในเขตอีสานใต้ และ ภาคกลาง ได้ค่าเสี่ยงภัยครั้งละหลายแสนบาท คิดตามจำนวนยาบ้า รับสารภาพทำมาแล้ว 3 ครั้ง จนกระทั่งถูกจับกุมได้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) โดยผิดกฎหมาย