ธนาคารโลกประกาศวันนี้ (26) มอบทุนให้ความช่วยเหลือในรูปของโครงการพัฒนาแก่พม่าเป็นมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ ที่รวมทั้งโครงการปรับปรุงการเข้าถึงพลังงานและการให้บริการทางสาธารณสุข นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกที่อยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนพม่าเป็นครั้งแรก กล่าวว่า ครึ่งหนึ่งของทุนจะใช้ในการขยายโครงข่ายด้านพลังงานในประเทศที่มากกว่า 70% ของประชากรทั้งหมดยังไม่มีไฟฟ้าใช้ "เรากำลังเพิ่มการสนับสนุนต่อความพยายามในการปฏิรูปที่กำลังดำเนิน อยู่ในพม่า เพราะเราต้องการที่จะช่วยรัฐบาลพม่านำผลประโยชน์ไปสู่ผู้ยากจนโดยเร็วที่ สุด" คำแถลงของประธานธนาคารโลก ระบุ "การขยายการเข้าถึงไฟฟ้าในประเทศเช่นพม่าสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงสังคม ได้ เด็กๆ สามารถเรียนหนังสือได้ในเวลากลางคืน ร้านค้าสามารถเปิดให้บริการได้ และคลินิครักษาโรคจะมีแสงไฟและพลังงานที่นำไปใช้กับเทคโนโลยีที่ช่วยรักษา ชีวิตผู้คน ไฟฟ้าสามารถขจัดความยากจนได้" คำแถลงระบุ โครงการความช่วยเหลือเหล่านี้ ยังรวมถึง ทุน 200 ล้านดอลลาร์ ที่จะช่วยพม่าบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2573 ซึ่งธนาคารโลกระบุว่ามีประชากรชาวพม่า 1 ใน 4 คน ที่เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ธนาคารโลกได้ปิดสำนักงานในนครย่างกุ้งเมื่อปี 2530 และระงับการให้ทุนกู้ยืมก้อนใหม่ หลังรัฐบาลเผด็จการทหารในสมัยนั้นหยุดการชำระหนี้มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ จากโครงการช่วยเหลือก่อนหน้านี้ แต่เมื่อปีที่ผ่านมา พม่าได้จัดการกับหนี้สินค้างชำระต่อธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ด้วยทุนกู้ยืมจากความช่วยเหลือของญี่ปุ่น ทำให้ธนาคารทั้งสองแห่งสามารถกลับมาให้ความช่วยเหลือพม่าได้อีกครั้ง ประธานาธิบดีเต็งเส่งดำเนินการปฏิรูปประเทศหลากหลายด้านนับตั้งแต่ ขึ้นบริหารประเทศในปี 2554 รวมทั้งการปล่อยตัวนักโทษการเมืองและการต้อนรับนางอองซานซูจีเข้าสู่สภา และในการตอบรับต่อความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ชาติตะวันตกเริ่มยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรและบริษัทต่างชาติเข้าแถวรอลงทุนใน พม่า ที่ต่างจับจ้องไปยังทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มหาศาล ประชากรที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และตำแหน่งที่ตั้งของประเทศที่อยู่ระหว่างจีนและอินเดีย พม่าที่ครั้งหนึ่งรู้จักกันในนาม "อู่ข้าวของเอเชีย" เพราะความร่ำรวยทางการเกษตร แต่การจัดการด้านเศรษฐกิจที่ผิดพลาดระหว่างการปกครองของทหารเกือบ 50 ปี ทำให้ประเทศจมอยู่ในความยากจน นายคิมมีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดีเต็งเส่ง สมาชิกในคณะรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมทั้งผู้นำทางธุรกิจ และเข้าร่วมการประชุมการพัฒนา ที่กรุงเนปีดอ ในวันจันทร์นี้ (27).
ການພັດທະນາປະເທດ ຂອງພະມ້າ ຈະໄປໄວກວ່າລາວ
ເພາະກົດໝາຍປະເທດເຂົາ ເປີດເສຮີພາບ ດີກວ່າ ສປປລາວ