สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 พ.ค.สหรัฐได้ส่งอากาศยานไร้คนขับไฮเทค 2 ลำ ไปยังญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาศักยภาพในการสำรวจลาดตระเวณความปลอดภัยของภูมิภาคเอเชีย โดยอากาศยานดังกล่าวหรือฝูงบิน "โกลบอล ฮ็อว์ค" ได้เดินทางถึงญี่ปุ่น และได้ประจำการยังฐานทัพทางตอนเหนือของญี่ปุ่น หลังจากเดินทางออกจากฐานทัพอากาศสหรัฐในเกาะกวม
ด้านกองทัพสหรัฐคาดหวังว่า การส่งอากาศยานไร้คนขับไฮเทค 2 ลำดังกล่าว ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่สหรัฐส่งไปยังญี่ปุ่น จะช่วยเสริมศักยภาพของสหรัฐในความเคลื่อนไหวด้านอาวุธนิวเคลียร์ของฐานทัพเรือจีนและเกาหลีเหนือ ซึ่งฝ่ายจีนและเกาหลีเหนือต่างร่วมมือกันพัฒนาฝูงบินอากาศยานไร้คนขับร่วมกัน
ขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ยังมีกำหนดจะประกาศเน้นถึงความสำคัญของญี่ปุ่นที่จะได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธ เพื่อช่วยรับประกันสันติภาพในภูมิภาคอาเซียน ระหว่างกาประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้เตือนจีนว่า กำลังทำให้ภูมิภาคเอเชียตึงเครียดมากขึ้น จากกรณีที่จีนได้ส่งเครื่องบินล่วงล้ำน่านฟ้าของญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ก่อน
ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้เสนอให้มีการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธอันทันสมัยไว้ในแดนโสม เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพด้านอาวุธอย่าง ไม่หยุดยั้ง เมื่อเดือนมีนาคม เกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางชั้น “โรดอง” ซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร นำมาซึ่งเสียงประณามอย่างรุนแรงจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เกรงว่าการทดสอบจรวดดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าโสมแดงจะทดสอบระเบิด นิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ในอนาคตอันใกล้ สำนักข่าวยอนฮัปได้อ้างคำพูดของ พล.อ.เคอร์ทิส สกาปาร์รอตติ ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐในเกาหลีใต้ ซึ่งระบุว่า “ผมแนะนำให้มีการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD (Terminal High Altitude Area Defense) ในเกาหลีใต้” พล.อ.สกาปาร์รอตติ ยังมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองกำลังผสมสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องแดนโสมขาว ทั้งนี้เนื่องจากสงครามเกาหลีระหว่างปี 1950-53 ถูกระงับไว้ด้วยข้อตกลงหยุดยิงเท่านั้น ในทางเทคนิคเกาหลีเหนือและใต้จึงยังอยู่ในภาวะสงคราม สื่อเมืองกิมจิรายงานว่า สหรัฐฯ ได้สำรวจพื้นที่เพื่อหาบริเวณที่เหมาะสมในการติดตั้งระบบ THAAD แล้ว แต่จนบัดนี้ยังไม่สรุปแน่นอนว่าจะนำระบบดังกล่าวเข้ามาใช้หรือไม่ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า รัฐบาลโซลจะพิจารณาความร่วมมือกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการนำระบบ THAAD ซึ่งสามารถยิงสกัดขีปนาวุธเป้าหมายได้จากระดับบรรยากาศชั้นสูงเข้ามาใช้ ทันทีที่สหรัฐฯ ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ คิม มิน ซ็อก โฆษกกระทรวงกลาโหมโสมขาว แถลงต่อสื่อมวลชนว่า “ผมเข้าใจว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ (ที่จะนำระบบ THAAD มาใช้ในเกาหลีใต้) หากสหรัฐฯขอความร่วมมืออย่างเป็นทางการมา กระทรวงฯ ก็พร้อมที่จะพิจารณา” เกาหลีใต้ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนของสหรัฐฯ ในด้านการป้องกันขีปนาวุธซึ่งครอบคลุมการปกป้องดินแดนญี่ปุ่นจากภัยคุกคาม ของโสมแดง แต่โซลเลือกที่จะพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธของตนเองที่เรียกว่า ระบบ KAMD ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่า เปียงยางอาจเข้าใกล้ขีดความสามารถในการผลิตจรวดติดหัวรบนิวเคลียร์มากกว่า ที่หลายฝ่ายคิด ซึ่งนั่นหมายความว่ามาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติตลอดหลายปีที่ผ่าน มาแทบจะไม่มีผลป้องปรามใดๆ เลย