โศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-200 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH17 โดนขีปนาวุธยิงตก ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อ 17 ก.ค. ถือเป็นหนึ่งในข่าวใหญ่สุดในรอบหลายปี และอาจเป็นข่าวช็อกโลกมากที่สุด หลังจากเกิดโศกนาฏกรรม 9/11 กลุ่มอัลกออิดะห์ ขับเครื่องบินโดยสารพุ่งชนตึกเวิลด์ เทรด ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อ 13 ปีก่อน
เหตุการณ์นี้ เป็นยิ่งกว่าโศกนาฏกรรม... เพราะมันได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ ผู้โดยสารและลูกเรือรวมแล้ว 298 ชีวิต ที่ต้องจากไป โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว และไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย กับการสู้รบระหว่างกลุ่มกบฏยูเครนฝักฝ่ายรัสเซีย ที่พยายามจะแยกดินแดนทางภาคตะวันออก กับกองกำลังทหารของรัฐบาลยูเครน ที่ยืดเยื้อมาหลายเดือน อีกทั้งยังเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำสองที่เกิดกับมาเลเซีย แอร์ไลน์ส หลังจาก MH 370 เพิ่งหายไปเพียง 4 เดือน
น่าเศร้าอย่างที่สุด เมื่อ โบอิ้งของมาเลเซีย แอร์ไลน์สลำนี้ ต้องถูกยิงตกและตกในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏ ด้วยเหตุนี้กองกำลังที่โดนตั้งข้อสงสัยมากที่สุดว่าเป็นตัวการยิงเอ็มเอช 17 ร่วง! คือ กลุ่มกบฏยูเครน
ขณะที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก็กำลังตกที่นั่งลำบากมากที่สุดเช่นกัน ในฐานะ ให้การสนับสนุนอาวุธยุทธโธปกรณ์ และความช่วยเหลือในทุกๆ ด้านแก่กลุ่มกบฏยูเครน ซึ่งโลกรู้ดีในเรื่องนี้ และเขาไม่มีทางปฏิเสธ
แต่แน่นอนว่า โศกนาฏกรรมร้ายแรงขนาดนี้ ยากจะหาใครมายอมรับผิดง่ายๆ หากไม่จนมุมด้วยหลักฐาน ชนิดดิ้นไม่หลุดจริงๆ
กลุ่มกบฏยูเครน ปฏิเสธว่า พวกตนไม่มีศักยภาพมากพอทางเทคนิคที่จะใช้ ขีปนาวุธบู๊ค ยิงเครื่องบินที่บินในระดับสูงถึง 10 กม.ตกได้หรอก! พร้อมกับอ้างว่า เป็นฝีมือของยูเครน นั่นแหละ อย่ามาทำตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ!
ขณะที่ ปูติน ก็เลี่ยงตอบแบบใช้วาทศิลป์ตามสไตล์ นักการเมืองระดับหนึ่งในผู้นำชาติมหาอำนาจ ว่า รัฐบาลประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครนนั่นแหละ ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤติการณ์ขึ้นในยูเครน เพราะถ้าไม่มีวิกฤติการณ์ในยูเครน เครื่องบินโบอิ้งของมาเลเซีย ก็คงไม่ต้องมาเจอโศกนาฏกรรมซ้ำสองเช่นนี้หรอก
เรียกว่า ไม่มีใครยอมรับผิด...
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพ่อแม่พี่น้อง คนในครอบครัวของผู้โดยสาร ที่มีชาวดัตช์ หรือเนเธอร์แลนด์ เสียชีวิตมากที่สุด 193 รายจาก 298 ราย และรองลงมาคือ ชาวมาเลเซีย 43 ราย (รวมถึงลูกเรือ 15 ราย) นั้น สำนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งเกาะติดรายงานข่าวนี้ละเอียดยิบ รายงานว่า ได้มีหลักฐานมากมายหลายอย่างที่กำลังผูกมัด กบฏยูเครน และรัสเซีย แน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า เป็นตัวการยิงเอ็มเอช 17…
ไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่ายจากดาวเทียม แสดงให้เห็นสถานที่ ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าถูกใช้เป็นที่ฝึกสอนด้านการทหาร แก่กบฏยูเครน ตั้งอยู่ใกล้เมืองรอสต็อฟ ของรัสเซีย และยังอยู่ใกล้ชายแดนยูเครนมาก โดย ต่อมา เรื่องนี้ ได้ ถูกทวีตข้อความในโลกออนไลน์ โดย นายจีออฟฟรีย์ ไพแอตต์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเครน
นอกจากนั้น ยังมีภาพอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า มีฐานยิงขีปนาวุธเคลื่อนที่ ของบู๊ค มิสไซล์ อยู่ในบริเวณยึดครองของกบฏ เพราะรัสเซียส่งมาให้
อีกทั้ง ยังมีรายงานจากฝั่งของรัฐบาลยูเครนว่าสามารถแอบดักฟังกลุ่มกบฏสนทนากันทาง โทรศัพท์ รวมทั้งยังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย กบฏฝักฝ่ายรัสเซียยอมรับยิงเครื่องบินตก แต่ไม่คิดว่าเป็นเครื่องบินพลเรือน
ขณะเดียวกัน ก็มีภาพและข้อความมากมายในโซเชียลมีเดีย ที่ชี้ว่า กบฏยูเครน มีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าใครเพื่อน