ทางการแขวงไซยะบูลี ของลาว ได้เปิดเผยท่าทีแสดงความพร้อมที่จะก่อสร้างเขื่อนปากลาย ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นลำน้ำโขงทั้งสายแห่งที่ 2 ถัดจากเขื่อนไซยะบูลี ที่กำลังก่อสร้างในขณะนี้ เขื่อนแห่งใหม่ล่าสุด จะส่งผลกระทบต่อราษฎร 7 หมู่บ้าน เกือบ 800 ครอบครัว ซึ่งจะต้องโยกย้ายคนกว่า 3,500 คน ไปตั้งถิ่นฐานใหม่ เขื่อนปากลาย กำลังจะทำให้น้ำท่วมเทือกไร่นาสวนของราษฎรใน 2 แขวง คือ ไซยะบูลี กับแขวงเวียงจันทน์ รวมกว่า 485,000 ไร่ สำนักข่าวของทางการรายงาน การประชุมปรึกษาหารือประเมินความเป็นไปได้ในการก่อสร้างเขื่อนปากลาย จัดขึ้นวันที่ 25 ก.ค.ที่้ห้องประชุมสำนักงานปกครองแขวง นายยันยง สีปะเสิด รองเจ้าแขวงไซยะบูลี กับนางสิงคำ คงสะหวัน รองเจ้าแขวงเวียงจันทน์ ผู้แทนบริษัทออกแบบและก่อสร้างจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าเมือง (นายอำเภอ) หัวหน้าแผนกที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก สำนักข่าวสารประเทดลาวรายงาน ตามแผนการดั้งเดิมนั้น เขื่อนปากลาย จะมีกำลังปั่นไฟฟ้า 1,320 เมกะวัตต์ จะสร้างขึ้นที่จุดบ้านผาเลียบ อยู่เหนือเมืองปากกลาย ขึ้นไปราว 30 กิโลเมตร ในแขวงไซยะบูลี ภายใต้สัมปทานของบริษัท CIEC และ บริษัทซิโนไฮโดร (Sinohydro) โดยบริษัทจากทั้งสองแห่งได้เซ็นบันทึกช่วยความจำกับรัฐบาลลาวเพื่อสำรวจ ศึกษาโครงการนี้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2550 เขื่อนปากลาย จะเป็นเขื่อนแบบฝายน้ำล้น (Run-off-River) แบบเดียวกันกับเขื่อนไซยะบูลี ที่กั้นลำน้ำโขงซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปราว 130 กิโลเมตร เขื่อนสูง 51 เมตร อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 240 เมตร กำลังจะทำให้เกิดอ่างเก็บน้ำยาว 110 กม. และเอ่อล้นขึ้นท่วม 2 ฝั่งในหลายพื้นที่ กำลังจะมีการก่อสร้างบันไดปลาโจนสำหรับการอพยพของฝูงปลา เช่นเดียวกันกับเขื่อนไซยะบูลี ขปล.ได้รายงานการประชุมปรึกษาครั้งล่าสุดนี้ว่า เขื่อนมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์ ก่อสร้างภายใต้สัมปทาน 30 ปี จะใช้เครื่องปั่นไฟชนิด
ບໍຣິສັດທັງສອງແມ່ນບໍຣິສັດຂອງນັກລົງທຶນປະເທດໃດ? ລາວຈະໄລ່ຈັບຝັນໄດ້ຫຼືບໍ່ກໍ່ຕ້ອງໄດ້ເບິ່ງກັນຕໍ່ໄປ
ໜ້າສົງສານປະຊາຊົນທີ່ຖືກຜົນກະທົບ !