ທາງຫລວງສາຍເລກທີ 11
ພິທີມອບ-ຮັບ ແລະ ເປີດນຳໃຊ້ເສັ້ນທາງຫຼວງແຫ່ງຊາດ ເລກທີ 11 ໄດ້ຈັດຂຶ້ນໃນວັນທີ 15 ສິງຫາ 2014

ທີ່ບ້ານເພຍລາດເມືອງສັງທອງ ນະຄອນຫຼວງວຽງຈັນ ໂດຍການເຂົ້າຮ່ວມຂອງ ທອງສິງ ທຳມະວົງ ນາຍົກລັດຖະມົນຕີ

ลาวเปิดใช้ทางหลวงสาย 11 เสร็จใหม่ๆ ด้วยความช่วยเหลือจากไทย

รอคอยมานาน และใช้เวลาก่อสร้าง 38 เดือน โดยบริษัทก่อสร้างจากไทย ด้วยความช่วยเหลือจากประเทศไทย จนกระทั่งแล้วเสร็จเมื่อเดือนที่แล้ว ลาวได้เปิดใช้ทางหลวงสาย 11 อย่างเป็นทางการสัปดาห์ที่ผ่านมา และวันข้างหน้าทางหลวงยุทธศาสตร์สายสำคัญนี้จะลาดยางตลอดสายเชื่อมต่อเข้า กับชายแดนไทยที่ จ.เลย
       
       จากสภาพเดิมที่เป็นทางดินแดงสายแคบๆ รวมระยะทางกว่า 80 กิโลเมตร ทางหลวงสาย 11 ก่อสร้าง-ยกระดับขึ้นมาเป็นถนนลาดยาง พร้อมสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กรวมจำนวน 9 แห่ง ด้วยเงินทุน 1,392 ล้านบาท เป็นความช่วยเหลือจากไทยในรูปเงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ และ 30% ของวงเงินเป็นความช่วยเหลือแบบให้เปล่า
       
       นายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรี นายสินละวง คุดไพทูน เจ้าครองนครเวียงจันทน์ นายบุนจัน สินทะวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ตลอดจนเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการวันศุกร์ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา “ลาวพัดทะนา” หนังสือพิมพ์ของสมาคมนักข่าวแห่งชาติรายงานวันอังคารนี้
       
       ตามข้อมูลของสื่อทางการ จากถนนดินแดงสายแคบ และคดเคี้ยว อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม เป็นหล่มโคลนในช่วงฤดูฝน วันนี้กลายเป็นถนนลาดยาง 2 ช่องทางจราจร กว้าง 10 เมตร เป็นช่องเดินรถข้างละ 3.5 เมตร ไหล่ถนนอีก 1.5 เมตร แยกจากทางหลวงสาย 13 เหนือ ที่บริเวณบ้านสีไค-บ้านเก้าเลี้ยว เมืองสีโคดตะบอง เลียบแม่น้ำโขงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเข้าสู่เมืองสังทอง ซึ่งเป็นอำเภอรอบนอกสุด และทุรกันดารที่สุด อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง
       
       ตามข้อมูลของสำนักข่าวสารปะเทดลาว สังทอง เป็นเขตเมืองที่ประชากรมีรายได้ต่ำที่สุด สภาพยากจนมากที่สุดของนครเวียงจันทน์ แต่เป็นพื้นที่การเกษตรและป่าไม้ รวมทั้งเป็นแหล่งแร่ทองคำอีกแห่งหนึ่ง ทางลาดยางสายใหม่จะช่วยให้ประชาชนสามารถขนส่งสินค้าได้รวดเร็ว และอำนวยความสะดวกให้แก่การไปหาสู่กัน
       
       ทางหลวงสาย 11 เป็นถนนสายยาวไปเชื่อมกับเมืองซะนะคาม แขวงเวียงจันทน์ และไปจดกับทางหลวงสาย 4 ที่เมืองปากลาย แขวงไซยะบูลี รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้น 204 กม. รัฐบาลลาวได้บรรจุเข้าในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระหว่างปี 2553-2558 มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศ พัฒนายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวเส้นทางสายนี้
       
       “รัฐบาลได้กำหนดเอาเส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่มีความ สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบรรดาแขวงที่เส้นทางตัดผ่าน ทั้งยังเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างแขวงภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ และไปยังประเทศเพื่อนบ้านกับอนุภูมิภาคนี้อีกด้วย” ลาวพัดทะนา กล่าว
       
       ชาวลาวจำนวนหนึ่งที่มีโอกาสได้ใช้ถนนสายใหม่เอี่ยม กล่าวว่า ทัศนียภาพสองข้างทางสวยงามมาก เพราะตัดผ่านทุ่งนา ป่า หลายช่วงของถนนยังตัดเลียบแม่น้ำโขง และมองเห็นภูเขาที่ทอดยาวแต่ไกล
       
       “ไปลองมาแล้ว แล่นคักหลาย สุดยอด” ผู้ที่ใช้ Silixay Banouvong โพสต์ข้อความนี้เป็นภาษาไทยลงในเฟซบุ๊ก พร้อมกับภาพประกอบที่เจ้าตัวยืนอยู่ข้างๆ จักรยานยนต์บิ๊กไบค์กับเพื่อนร่วมทีม โดยถ่ายจากริมทางหลวงสายใหม่นี้.