อุบลราชธานี - การค้าภายในจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สกัดจับรถพ่วง 18 ล้อ 33 คัน บรรทุกมันสด และมันเส้นจากประเทศลาว หนักกว่า 900 ตัน บนถนนช่องเม็ก-บุณทริก ขณะนำส่งโรงงานในจังหวัด พบนำเข้าถูกต้อง แต่ไม่มีใบอนุญาตขนย้าย เมื่อเวลา 21.30 น. คืนที่ผ่านมา (5 ก.พ.) น.ส.ปาริชาติ พงค์พันเทา การค้าภายในจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ร.ท.ธีรศักดิ์ สืบพรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ สกัดจับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกมันสำปะหลังจากประเทศลาว จำนวน 33 คัน น้ำหนักกว่า 900 ตัน ขณะแล่นมาตามถนนช่องเม็ก-บุณทริก บริเวณบ้านป่าไม้ ต.คอแลน อ.บุณทริก จ.อุบลราชธานี พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นพนักงานขับรถบรรทุกรวม 33 คน จากการสอบสวนพนักงานขับรถทั้งหมดให้การว่า ขับรถบรรทุกมันสำปะหลังมาจากประเทศลาว เพื่อนำเข้ามาส่งให้แก่โรงงานมันสำปะหลังในจังหวัดอุบลราชธานี โดยผ่านกระบวนการศุลกากรที่ด่านพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร อย่างถูกต้อง แต่ไม่ทราบจะผิดกฎหมายตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 10 พ.ศ.2559 เรื่องการควบคุมและการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสด หรือมันแห้งเข้ามาในราชอาณาจักร น.ส.ปาริชาติ พงค์พันเทา การค้าภายในจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง มีการลักลอบนำมันสำปะหลังจากประเทศลาว ทำให้ราคามันสำปะหลังในประเทศปรับตัวลดลง ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จึงสนธิกำลังกับทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบการลักลอบขนมันสำปะหลังมาจากประเทศลาวใน วันนี้ การนำมันสำปะหลังเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้ผ่านด่านศุลกากรตามระเบียบ แต่ยังผิดตามประกาศของคณะกรรมการกลาง ซึ่งได้ประกาศให้ 9 อำเภอตามแนวชายแดนของจังหวัดอุบลราชธานี จะต้องมีการแจ้งขออนุญาตขนย้ายมันสำปะหลังหากมีน้ำหนักเกิน 10 ตัน และต้องขนย้ายได้ไม่เกิน 15 ตัน แต่การขนย้ายครั้งนี้ มันสำปะหลังมีน้ำหนักรวมกันกว่า 900 ตัน โดยไม่มีหนังสืออนุญาตการขนย้ายมันสำปะหลังสด และมันเส้นกำกับมาด้วย จึงจับกุมดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่า ด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 10 พ.ศ.2559 เรื่องการควบคุมการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสด หรือมันแห้ง ลงวันที่ 25 มกราคม 2559 อันเป็นความผิดตามมาตรา 25(7) และโทษตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542
ຕັ້ງເຈດຕະນາກັ່ນແກ້ງ ສີນຄ້າລາວດອກອັນນີ້
ເຮັດກັບໄທກະເປັນແບບນີ້ລະ ບໍ່ມີຄວາມຈີງໃຈຕໍ່ກັນ
ດອກ ໂດຍສະເພາະແມ່ນກັບລາວ ຖືກກັ່ນແກ້ງຕະລອດ
อุบลราชธานี - ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี สั่งตรวจเข้มการขนย้ายมันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าไทย กันกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันในประเทศ เพราะทำให้ราคามันสำปะหลังที่กำลังออกสู่ตลาดปีนี้ตกต่ำลงได้ ขณะการค้าภายในบอกการนำเข้าผ่านกระบวนการศุลกากรถูกต้อง แต่ต้องแจ้งขออนุญาตจุดนำเข้าและปลายทาง เพื่อควบคุมปริมาณไม่ให้มากจนเกิดผลกระทบด้านราคาในประเทศด้วย จากกรณีสำนักงานการค้าภายในร่วมกับทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สกัดจับ รถขนมันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 33 คัน น้ำหนักกว่า 900 ตัน โดยตั้งข้อหาเคลื่อนย้ายมันสำปะหลังในพื้นที่ห้ามก่อนได้รับอนุญาต จากกระทรวงพาณิชย์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้านายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย น.ส.ปาริชาติ พงค์พันเทา การค้าภายในจังหวัดอุบลราชธานี ตรวจสอบรถพ่วง 18 ล้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่การค้าภายใน ร่วมกับตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง สกัดจับขณะกำลังขนมันสำปะหลังทั้งหัวมันสดและมันเส้นจากประเทศเพื่อนบ้าน มาตามถนนช่องเม็ก-บุณฑริก บริเวณบ้านป่าไม้ ต.คอแลน อ.บุณฑริก เพื่อนำมาส่งที่โรงงานมันสำปะหลังในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี จำนวน 33 คัน
โดยตั้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่า ด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 10 พ.ศ.2559 เรื่องการควบคุมการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดหรือมันแห้ง ลงวันที่ 25 มกราคม 2559 อันเป็นความผิดตามมาตรา 25(7) และโทษตามมาตรา 37 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 เพราะไม่แจ้งขออนุญาตเคลื่อนย้ายมันสำปะหลัง ซึ่งอาจทำให้ราคามันสดและมันเส้นในประเทศมีราคาตกลง ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในประเทศได้รับความเดือดร้อน และจากการตรวจวัดน้ำหนักรถบรรทุกมันสำปะหลังทั้งหมด พบมีการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฏหมายกำหนดที่ 50.5 ตัน จำนวน 28 คัน อีก 5 คัน มีน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน แต่ทั้งหมดยังมีความผิดเรื่องการไม่ขออนุญาตขนย้ายมันสำปะหลังเข้ามาใน พื้นที่ตามที่มีการประกาศห้าม
หลังการตรวจสอบนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า มันสำปะหลังที่ตรวจยึดไว้ทั้งหมดกว่า 900 ตัน มีการขออนุญาตนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านกระบวนการทางศุลกากรอย่างถูก ต้อง แต่ไม่มีการขออนุญาตขนย้ายของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งต้องมีการควบคุมไม่ให้มันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีราคาถูกกว่า เข้ามามาก จนทำให้ราคามันสำปะหลังในประเทศตกลง นอกจากตรวจยึดรถบรรทุกขนมันสำปะหลังทั้ง 33 คันแล้ว วันนี้ ยังมีการสั่งให้รถบรรทุกมันสำปะหลังที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านอีก 20 คัน ที่บริเวณด่านพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร ห้ามเคลื่อนย้ายไปยังโรงมันสำปะหลังปลายทาง พร้อมสั่งให้นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม ปลัดจังหวัดไปตรวจสอบรถบรรทุกมันสำปะหลังทั้งหมด มีเอกสารกำกับการขอเคลื่อนย้ายมันสำปะหลังด้วยหรือไม่ หากไม่มีก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ด้าน น.ส.ปาริชาติ พงค์พันเทา การค้าภายในจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า การนำเข้าหัวมันสดและมันเส้นจากประเทศเพื่อนบ้านสามารถทำได้ แต่ต้องแจ้งขออนุญาตเคลื่อนย้ายกับกระทรวงพาณิชย์ก่อน เพราะราคามันสำปะหลังของประเทศเพื่อนบ้านมีราคาถูกกว่าในประเทศกิโลกรัมละ เกือบ 1 บาท
หากปล่อยให้สำปะหลังจากต่างประเทศเข้ามาจำนวนมาก จะส่งผลกระทบต่อราคามันสำปะหลังในประเทศ ต้องปรับตัวลดลงตามกลไกการตลาด ก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในประเทศต่อไปใน อนาคต ดังนั้น คณะกรรมการกลางว่า ด้วยราคาสินค้าและบริการ จึงประกาศห้ามเคลื่อนย้ายมันสำปะหลังในพื้นที่ 9 อำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนได้รับอนุญาต เพื่อทำการควบคุมปริมาณมันสำปะหลังจากต่างประเทศไม่ให้เข้ามามากจนเกินไปดัง กล่าว สำหรับราคามันสำปะหลังในประเทศไทยขณะนี้ มันสดกิโลกรัมละประมาณ 2 บาท มันเส้น(มันแห้ง)กิโลกรัมละ 4.90-5.00 บาท ส่วนราคามันสำปะหลังที่นำเข้าจากประเทศลาว มันสดกิโลกรัมละ 1.00-1.30 บาท มันเส้นกิโลกรัมละ 3 บาทเศษ ซึ่งของลาวจะถูกกว่าของในประเทศไทยเฉลี่ยประมาณ 0.70-1 บาทเศษ
Anonymous wrote:ຕັ້ງເຈດຕະນາກັ່ນແກ້ງ ສີນຄ້າລາວດອກອັນນີ້ເຮັດກັບໄທກະເປັນແບບນີ້ລະ ບໍ່ມີຄວາມຈີງໃຈຕໍ່ກັນດອກ ໂດຍສະເພາະແມ່ນກັບລາວ ຖືກກັ່ນແກ້ງຕະລອດ
ພັກລັດ ມັນໂງ່ເອງ ບອກໃຫ້ປະຊາຊົນ ປູກແລ້ວ
ບໍ່ຊອກຫາຕະລາດຮັບຊຶ້ ໃຫ້ຊາວກະເສດຕະກອນ
Anonymous wrote:Anonymous wrote:ຕັ້ງເຈດຕະນາກັ່ນແກ້ງ ສີນຄ້າລາວດອກອັນນີ້ເຮັດກັບໄທກະເປັນແບບນີ້ລະ ບໍ່ມີຄວາມຈີງໃຈຕໍ່ກັນດອກ ໂດຍສະເພາະແມ່ນກັບລາວ ຖືກກັ່ນແກ້ງຕະລອດ ພັກລັດ ມັນໂງ່ເອງ ບອກໃຫ້ປະຊາຊົນ ປູກແລ້ວ ບໍ່ຊອກຫາຕະລາດຮັບຊຶ້ ໃຫ້ຊາວກະເສດຕະກອນ
ແມ່ນຄວາມທ່ານ ພັກ-ລັດ, ນອກຈາກມັນໂງ່ກວ່າໝາຂີ້ເຮື້ອນທີ່ວ່າຕົນເອງສະຫຼາດຮັກສາ
ຂີ້ເຮື້ອນໄວ້ເກົາວ່າມັນໃຫ້ຄວາມສຸກແລ້ວ,ຍັງເປັນຕົວຂອງຕົນເອງບໍ່ໄດ້ໂງໄປທາງໃດກະຖືກ
ແຕ່ເຂົາເຂກໝາກກອກ ບໍ່ວ່າແກວນາຍເໜືອຫົວ,ໄທ ຫຼື ຈີນ,ກະທັ້ງເມຍພວກມັນເອງກໍ່
ເຂກໜາກກອກທຸກເຊົ້າທຸກແລງເພາະບໍ່ເຮັດວຽກໃຫ້ເຂົາ.555555
ນີ້ເປັນເກມການເມືອງຂອງໄທເອງທີ່ໃຊ້ກະສິກອນເປັນເຄື່ອງມືໃນດານຕໍ່ຮອງຫລືສ້າງຄວາມປັ່ນປ່ວນໃຫ້ປະເທດເກີດວິກິດຂຶ້ນ
ເພາະເຈົ້າຂອງມັນທີ່ຖືກຍຶດໃນຄັ້ງນີ້ເປັນຄົນໄທຫລືນາຍທຶນໄທທີ່ເຂົ້າໄປເຊົ່າທີ່ດິນໃນລາວເພືອ່ຜລິດທາງການກະເສດ ແຕ່ ຄົນ
ໄທຜູ່ນີ້ເສືອກເປັນຄົນໄທເສື້ອແດງທີ່ຕໍ່ຕ້ານກັບການຣັຖະປະຫານ ຈຶ່ງຖຶກ ຈ່າເອກ ປຣະຍຸດ ຈັນໂອຊາ ສັ່ງຈັດການ