ລາວໂຮມລາວ ເພື່ອປະຊາທິປະໄຕ

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ສປປ ລາວ ຈະເສັຽປຽບ ແລະ ຜົນປະໂຫຍດໃຫ້ແກ່ນາຍທຶນຈີນຢ່າງມະຫາສານ.
Anonymous

Date:
ສປປ ລາວ ຈະເສັຽປຽບ ແລະ ຜົນປະໂຫຍດໃຫ້ແກ່ນາຍທຶນຈີນຢ່າງມະຫາສານ.
Permalink   
 


ກໍລະນີການສ້າງທາງລົດໄຟຄວາມໄວສູງຂອງຈີນຜ່ານຈາກຊາຍແດນ ລາວ-ຈີນ ລົງມາເຖິງນະຄອນຫລວງ ວຽງຈັນ 

ໃນລະຍະຄວາມຍາວປະມານ 4 ຫາ 500 ກິໂລແມັດ ນັ້ນ, ລັດຖະບານ ສປປ ລາວ ຄວນທົບທວນຄືນໃໝ່ເຖິງຜົນ

ໄດ້ຜົນເສັຽຂອງປະເທດເປັນຫລັກ ຊຶ່ງນັກວິໄຈທາງດ້ານທຸລະກິດລົດໄຟຄວາມໄວສູງຈາກມະຫາວິທະຍາໄລຊື່ດັງແຫ່ງ

ນຶ່ງຂອງຍີ່ປຸ່ນໄດ້ຖະແຫລງອອກສູ່ສື່ອອນລາຍເມື່ອຕົ້ນເດືອນມັງກອນຂອງປີນີ້ວ່າ ຖ້າ ສປປ ລາວ ຍັງສືບສານການກໍ່

ສ້າງເສັ້ນທາງລົດໄຟຄວາມໄວສູງຂອງຈີນ ຜົນປະໂຫຍດທີ່ ສປປ ລາວ ຈະໄດ້ຮັບຈາກແຜນການນີ້ແມ່ນເກືອບຈະແລ

ບໍ່ເຫັນວ່າມີຫລາຍເຖິງເຄິ່ງເປີເຊັນ (0.5%) ເລີຍ. ຜົນປະໂຫຍດທັງໝົດຫລື (99.5%) ນັ້ນແມ່ນຕົກໄປເປັນ

ຂອງຈີນທັງໝົດ. ສີ່ງທີ່ ສປປ ລາວ ຈະສູນເສັຽອັນມະຫາສານທີ່ສຸດນັ້ນແມ່ນເນື້ອທີ່ຕາດິນສອງຂ້າງທາງສາຍລົດໄຟ

ທີ່ມີໜ້າກ້ວາງຂ້າງລະ 5 ກລມ. ລວມເປັນສິບກິໂລແມັດຂອງສອງຂ້າງທາງລົດໄຟ ແລະ ຄວາມຍາວຂອງເສັ້ນທາງ

ລົດໄຟເສັ້ນນີ້ປະມານ 500 ກລມ. ເມື່ອມາຄິດໄລ່ເບິ່ງແລ້ວ ສປປ ລາວ ຈະສູນເສັຽທີ່ດິນໃຫ້ຈີນຟຣີໆມີຫລາຍກ່ວາ

5000km2.(ຫ້າພັນກິໂລແມັດກາເຣ). ຈີນຈະຂົນປະຊາຊົນພວກເຂົາເຂົ້າມາຕັ້ງຖິ່ນຖານຢູ່ຕາມສອງຝາກຂ້າງ

ຂອງເສັ້ນທາງນັບເປັນຫລາຍພັນຄອບຄົວ ແລະ ກໍຈະຢູ່ອາໄສທຳມາຫາກິນບົນຜືນແຜ່ນດິນລາວແບບຟຣີໄປນານທີ່

ສຸດ ນານຈນກ່ວາຈີນຈະຍຸບໃຊ້ເສັ້ນທາງລົດໄຟເສັ້ນນີ້ຂອງເຂົາ, ນັກວິເຄາະຍັງກ່າວອອກມາອີກວ່າ ຄຸນນະພາບຂອງ

ລົດໄຟແລະເສັ້ນລາງຂອງມັນຈະມີມາດຕະຖານສູງທີ່ສ່ຽງຕໍ່ຄວາມປອດໄພຫລືບໍ່? ເພາະສິນຄ້າຫລືຍານພາຫະນະ

ຂອງຈີນຮວມທັງລົດໄຟຄວາມໄວສູງຂອງຈີນແມ່ນບໍ່ໄດ້ມາດຕະຖານສາກົນ ມີຄວາມສ່ຽງຕໍ່ອຸບັດເຫດສູງ. 

ຫວັງວ່າລັດຖະບານ ສປປ ລາວ ຄວນທວນຄືນອີກຄັ້ງກ່ອນຈະຕົກລົງໃຫ້ຈີນສ້າງທາງລົດໄຟຂອງເຂົາຜ່ານປະເທດ

ຖ້າຈີນຢາກສ້າງກໍຄວນມີສັນຍາອະນຸຍາດໃຫ້ເຂົາລໄງທຶນສ້າງເອງ ບໍ່ຍອມເສັຽທີ່ດິນສອງຂ້າງທາງໃຫ້ເຂົາ ບໍ່ຍອມ

ເຊັນຮັບເງື່ອນໄຂໃດໆກັບເຂົາ ແລະ ເຊັນສັນຍາເກັບຄ່າທາງລົດໄຟທີ່ຜ່ານປະເທດຕາມສົມຄວນຄວນທີ່ຈິເປັນວ່າປີ

ນຶ່ງເທົ່າໃດ? 



__________________
Anonymous

Date:
Permalink   
 

ເຈັກແປະ ໂງ່ ແລ້ວ ອວດສະຫຼາດ

35.jpg

 

ຕອ້ງເບິ່ງໄທຍເປັນຕົວຢ່າງ ວ່າເຂົາຕົກລົງກັນແບບໃດ

ການລົງທຸນມັນຕ້ອງຮວ່ມກັນທັງສອງຝ່າຍ ບໍ່ແມ່ນໃຫ້ແຕ່ຈີນຝ່າຍດຽວ

ລາວເປັນຜູ້ກູ້

413ec1.jpg

 

ดูเหมือนการเจรจาโครงการรถไฟไทย-จีนจะยังหาข้อสรุปไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ออกข่าวมาระยะหนึ่งเสมือนว่าทุกอย่างจะลงตัว แต่หลังสุดรองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์แสดงจุดยืนที่ชัดเจนให้คนไทยทั่วไปได้เห็น

นั่นคือจีนต้องรับหลักการใหญ่ก่อน อันหมายถึงการตั้งบริษัทร่วมทุน จากนั้นจึงมาพูดเรื่องรายละเอียด

ทำให้หลายคนที่ติดตามเรื่องนี้งุนงงเล็กน้อย นึกว่าที่ผ่านมามีการพูดจากันชัดเจนถึงขั้นจะลงมือสร้างกันแล้วในเร็ว ๆ วัน

ประเด็นหลักสองเรื่องที่ว่ากันว่าต้องเจรจากันคือยอดเงินลงทุนที่ไทยวางไว้ 400,000 กว่าล้าน และฝ่ายจีนเสนอมาที่ 500,000 กว่าล้าน

และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่จีนเสนอมาที่ 2.5% แต่ไทยขอให้ลดลงเหลือ 2% เพราะญี่ปุ่นเสนอต่ำกว่านั้น แต่ฝ่ายจีนยืนยันว่าถูกที่สุดแล้ว แต่ก็พร้อมจะพูดจาให้ได้ประโยชน์ทั้งคู่

แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดร. สมคิดเปิดประเด็นใหม่

โดยบอกว่าได้มอบหมายให้รัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรีคมนาคมเดินทางไปเจรจา โครงการรถไฟไทย-จีนกับฝ่ายจีน โดยที่ฝ่ายไทยต้องการให้ฝ่ายจีนรับหลักการใหญ่ที่ไทยเสนอก่อน นั่นคือตั้ง “บริษัทร่วมทุนร่วมกัน

ถ้าตกลงหลักการนี้ได้ จึงพูดถึงสัดส่วนการถือหุ้น

การทำงานใหญ่จะต้องเอาองค์กรให้เกิดขึ้นก่อน แล้วค่อยมาคุยกันในรายละเอียด ถ้ามัวแต่พูดว่าดอกเบี้ยกี่เปอร์เซ็นต์ มันจะเกิดได้อย่างไร? ให้ข้างล่างทะเลาะกัน ข้างบนก็ไม่จบสักที อย่างนี้ไม่ได้...” รองนายกฯสมคิดบอกนักข่าว

และเสริมต่อว่าได้ “ฟ้องทูตจีนไปแล้ว” ซึ่งผู้ใหญ่ฝั่งโน้นก็รู้เรื่องและอยากให้จบ จะได้เดินต่อ

ทำไมจึงเป็นเช่นนี้? ฟังจากอธิบายของคุณสมคิดแล้วก็จะเข้าใจว่าฝ่ายไทยต้องการให้จีนรับผิดชอบต้น ทุนการลงทุนโครงการร่วมกับฝ่ายไทยที่เรียกว่า cover cost ไม่ใช่ให้ฝ่ายจีนร่วมทุนเฉพาะการเดินรถเพียงอย่างเดียว

“ได้บอกกับทางจีนไปว่า หากคุณเริ่มเมื่อไหร่ ผมก็จะไปเมื่อนั้น ซึ่งจีนอยากให้ไทยไปเยือนมาก แต่ก็ได้แจ้งไปว่าขอให้เรื่องรถไฟเดินหน้าเสียก่อน ไม่เช่นนั้นไปแล้วก็กระอักกระอ่วน...”

อ่านระหว่างบรรทัด, ก็พอจะเข้าใจว่าตอนนี้มีความ “กระอักกระอ่วน” เพราะไทยต้องการให้ฝ่ายจีน “ร่วมหัวลงโรง” ในโครงการนี้ คือทำเป็นการลงทุนร่วมกัน ไม่ใช่เพียงแค่จีนให้ไทยกู้ และร่วมทุนเฉพาะเรื่องการเดินรถ

อย่างนี้เท่ากับโอนความเสี่ยงหลัก ๆ มาอยู่กับฝ่ายไทยฝ่ายเดียว

โครงการรถไฟไทย-จีนได้กลายเป็นสัญญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ของสองประเทศไป แล้ว มิใช่เป็นเพียงเรื่องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม เพราะความสำเร็จหรือล้มเหลวของการเจรจาจะอยู่ที่การที่ทั้งสองฝ่ายจะวาง เงื่อนไขที่รับได้ทั้งสองประเทศ และไม่ให้เกิดความรู้สึกได้เปรียบเสียเปรียบต่อกันและกัน

จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่รองนายกฯสมคิดได้แสดงจุดยืนเรื่องนี้ อย่างเปิดเผย ให้ประชาชนคนไทยได้รับรู้ถึงประเด็น, เงื่อนไขและรายละเอียดที่เรากำลังเจรจากับฝ่ายจีน เพราะหาไม่แล้วก็จะเกิดเสียงครหาว่าเราถูกกดดันหรือบีบคั้น จนต้องลงทุนด้วยเงินมหาศาล แต่ไม่อาจจะประเมินผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง

จนมีการเสนอจากผู้วิเคราะห์บางฝ่ายว่าเราควรจะยกเลิกโครงการนี้ไปด้วยซ้ำ

จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะเดินหน้าเรื่องนี้ไปอย่างโปร่งใส บอกกล่าวให้สาธารณชนได้ทราบทุกระยะและทุกรายละเอียดเพื่อภาครัฐกับเอกชนและ นักวิชาการผู้มีประสบการณ์และความรู้ความสามารถวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียจะได้ ประเมินทุกขั้นตอนของโครงการอย่างละเอียดรอบด้าน



Attachments
__________________
Anonymous

Date:
RE: ສປປ ລາວ ຈະເສັຽປຽບ ແລະ ຜົນປະໂຫຍດໃຫ້ແກ່ນາຍທຶນຈີນຢ່າງມະຫາສານ.
Permalink   
 


ກໍ່ຍ້ອນ ພັກ-ລັດ ກໍ່ຄືກົມການເມືອງ ແລະ ພວກຫົວແມງວັນຂຽວ 11 ໂຕ ທີ່ມັກດົມຂອງເໜັນ

ຕ່າງປະເທດໂດຽສະເພາະຂອງ ແກວ ແລະ ເຈັກ.



__________________
Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard