เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่กองร้อย ตชด.244 อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.บึงกาฬ นายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ ปลัดจังหวัด พ.อ.วิชัย มารศรี รอง ผอ.กอ.รมน.และ พล.ต.ต.สุภลักษณ์ วรรณฤกษ์งาม ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ แถลงผลการตรวจยึดกัญชาแห้งจำนวน 41 กระสอบ น้ำหนัก 1,280 กิโลกรัม รวมมูลค่า 25.6 ล้านบาท จากการสืบทราบของ พ.ต.อ.สมบัติ บุญโสภา ผกก.ตชด.24 ว่าจะมีแก๊งค้ายาเสพติดจาก สปป.ลาว ส่งมอบกัญชากว่า 2,000 กิโลกรัม ในพื้นที่ ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อนุรักษ์ เสนามาตย์ ผบ.ร้อย ตชด.244 บึงกาฬ สนธิกำลังกับตำรวจน้ำ หน่วย นรข.เขตหนองคาย ทหาร กกล.รส.ตำรวจ กก.3บก.ปทส. ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ ปปส. วางแผนเข้าจับกุม แต่คนร้ายอาศัยความมืดลงเรือหลบหนีข้ามฝั่งไป สปป.ลาว
ทั้งนี้ การตรวจยึดดังกล่าวถือว่า ถือว่ายึดกัญชาได้มากที่สุดของ จ.บึงกาฬ ซึ่งกัญชาล็อตนี้เป็นของใหม่ ทำเป็นแท่งเล็กๆ บรรจุถุง 2 ชั้น ซีลสุญญากาศ มีสารกันความชื้น คาดว่าจะนำไปพักในพื้นที่ภาคกลางแล้วแพ็คส่งขายต่อยังต่างประเทศ.
รวบหนุ่มชาวลาวพร้อมยาบ้า 46,000 เม็ด
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รักษาการ ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.วันชนะ ทิพย์อาสน์ สว.กก.ปพ.บก.ป.แถลงผลจับกุม นายสมชาย หรือเชงก๋อ แซ่ย่าง อายุ 26 ปี ชาวเขาเผ่าเย้า อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 17 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และนางจันแฮ ไม่มีนามสกุล อายุ 23 ปี สัญชาติลาว อาศัยอยู่ที่แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว พร้อมของกลางยาบ้า 46,000 เม็ด และหนังสือเดินทางประเทศลาวของนางจันแฮ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเป้สีเทา 1 ใบ จับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนจันทน์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวว่า ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายสมชายมีพฤติกรรมค้ายาเสพติด จึงวางแผนล่อซื้อยาบ้า 6,000 เม็ด ในราคา 100,000 บาท นัดหมายส่งมอบกันที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว เมื่อนายสมชายและนางจันแฮนำยาบ้ามาส่งมอบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 3761/384 ซอยอยู่ดี แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. พบยาบ้าถูกซุกซ่อนไว้อีก 40,000 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองได้ขนยาบ้าดังกล่าวมาจากพื้นที่ จ.นครนายก เพื่อนำส่งให้ลูกค้า
สอบสวนนายสมชายรับสารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากผู้ ต้องขังในเรือนจำแห่งหนึ่ง โดยติดต่อกันทางโทรศัพท์ ให้นำยาบ้าทั้งหมดไปส่งให้ลูกค้า โดยจะได้รับเงินค่าตอบแทน 100,000 บาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนสาเหตุที่ทำเพราะต้องการหาเงินไปแต่งงานกับภรรยาที่แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป