14 พ.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายสม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านของกัมพูชา เดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ไปยังกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียในวันนี้ โดยนายสมให้สัมภาษณ์ว่า ทุกประเทศในอาเซียนจะต้องบรรลุเป้าหมายในการเป็นประชาธิปไตย แต่จะพัฒนาได้ช้าเร็วต่างกัน ขณะที่กัมพูชาถูกปกครองโดยพรรคการเมืองพรรคเดียวมาตลอด 40 ปี และมีนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ผูกขาดในตำแหน่งมานานถึง 35 ปี ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
โดยนายสม รังสี จะเดินทางไปพบกับสมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซีย และหวังว่าจะได้กลับกัมพูชาในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ นายสม ซึ่งลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศสตั้งแต่ 4 ปีก่อน ได้ประกาศหาทางกลับเข้าประเทศกัมพูชาเพื่อโค่นอำนาจของรัฐบาลของฮุนเซน โดยตอนแรกเขามีแผนที่จะบินเข้าไทยผ่านข้ามชายแดนไปยังบ้านเกิด แต่ทางการไทยปฏิเสธการเข้าประเทศ ทำให้นายสม รังสี บินวกเข้ามาเลเซียเพื่อเคลื่อนไหวกดดันฮุนซน
ขณะที่มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาสั่งให้ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านกว่า 70 คน ด้วยการประกันตัว หลังจากจับกุมในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนและกล่าวหาว่าวางแผนโค่นล้มรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวสุนทรพจน์เปิดโรงงานซีเมนต์แห่งใหม่ในจังหวัดกำปอต ทางใต้ของประเทศในวันนี้ โดยกล่าวไปถึงเจ้าหน้าที่ตุลาการว่า ขอให้เร่งกระบวนการให้ประกันตัวโดยเร็ว เพื่อให้พี่น้องกว่า 70 คนได้รับการปล่อยตัว และว่านอกจากสั่งให้ฝ่ายค้านได้รับการประกันตัวแล้ว เขายังได้สั่งให้กระทรวงยุติธรรมเพิกถอนหมายจับนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านคนอื่น ๆ ที่หนีไปไทยหรือหลบซ่อนตัวอยูในกัมพูชาด้วย
ด้านนางมู โซชัว รองหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือซีเอ็นอาร์พี (CNRP) ที่ถูกศาลฎีกาสั่งยุบพรรคไปเมื่อปลายปีก่อนมองว่า เป็นเพียงเทคนิคการยอมอ่อนข้อบางส่วนครั้งใหม่ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน หวังสร้างความแตกแยกในกลุ่มฝ่ายค้าน เพราะเขายังคงขึ้นบัญชีนายสม รังสี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคและคนสนิทอีกหลายคนว่าเป็นกบฏที่พยายามโค่นล้มรัฐบาล
ນະໂຍບາຍການເມືອງຂອງທ່ານ ສົມ ຣັງສີ ເປັນນະໂຍບາຍທີ່ດີຫລາຍ
ແລະ ອາຊຽນຄວນຮ່ວມມື ຮ່ວມໃຈ ເດີນກ້າວໄປສູ່ຈຸດໝາຍ.