WHOพบแล้วต้นตอโควิด – วันที่ 16 มี.ค. เอ็นพีอาร์รายงานว่า หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์คณะสืบสวนข้อเท็จจริงขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อหาต้นตอเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ซาร์ส 2 (SARS-CoV-2) สาเหตุโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 เปิดเผยว่าอาจพบแหล่งซึ่งคาดว่าเป็นที่มาของการที่ไวรัสติดต่อจากสัตว์ตัวกลางไม่ทราบชนิดสู่มนุษย์แล้ว
นายปีเตอร์ ดาสแซ็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดและนิเวศวิทยา สัญชาติอังกฤษ หนึ่งในสมาชิกคณะสืบสวนของ WHO ที่ลงพื้นที่ในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ระบุว่า แหล่งดังกล่าวน่าจะเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าซึ่งตั้งอยู่ทางภาคใต้ของจีนมากที่สุด ซึ่งทางการจีนสั่งปิดไปตั้งแต่เดือนก.พ. 2563
การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังคณะสืบสวนของ WHO เตรียมเปิดเผยรายงานฉบับเต็มในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยมีเนื้อหาระบุถึงการพบหลักฐานใหม่ฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเหล่านี้เป็นผู้ผลิตส่งมาขายที่ตลาดค้าส่ง หัวหนาน นครอู่ฮั่น ซึ่งเป็นจุดแรกที่พบการระบาดของโรคโควิด-19
นายดาสแซ็ก ระบุว่า หลักฐานนี้สอดคล้องกับการดำเนินการของทางการจีนในช่วงแรกของการระบาดด้วย สะท้อนว่าทางการจีนสงสัยว่าฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในเส้นทางการระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้จากค้างคาวมาสู่นครอู่ฮั่น
รายงานระบุว่า ฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเหล่านี้ มีอยู่ในมณฑลยูนนาน ทางภาคใต้ของจีนด้วย ซึ่งคอยส่งสัตว์มาขายที่ตลาดหัวหนาน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการรัฐบาลจีนที่ส่งเสริมมานานถึง 20 ปีแล้ว เพื่อพัฒนาประเทศ และสร้างรายได้ให้ประชากร โดยสัตว์ป่าพวกนี้ เช่น ชะมด เม่น ลิ่น แรคคูน หนูอ้น นำมาเพาะเลี้ยงเป็นฟาร์ม เพื่อใช้เนื้อประกอบอาหาร
“ทางการจีนส่งเสริมให้มีการทำฟาร์มสัตว์ป่าเพื่อสร้างรายได้และแก้ไขปัญหาความยากจนให้ชาวบ้านในชนบทครับ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประชากร ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ตัวเลขเมื่อปี 2559 มีคนทำงานในแวดวงนี้ถึง 14 ล้านคน มูลค่าตลาดกว่า 2 ล้านล้านบาท” ดาสแซ็ก ระบุ
ภายหลังการระบาดของโรคโควิด-19 ที่นครอู่ฮั่น เริ่มทุเลาลง ทางการจีนดำเนินการให้ฟาร์มเหล่านี้ต้องยุติกิจการลง ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่สำคัญมากกับการค้นพบของคณะจาก WHO
“สิ่งที่รัฐบาลจีนดำเนินการสำคัญมากครับตรงนี้ เพราะมีการประกาศว่าจะให้เลิกฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า จากนั้นก็ส่งหนังสือขั้นตอนการทำลายสัตว์ป่าทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นการฝัง เผา หรือฆ่า โดยไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค” ดาสแซ็ก ระบุ
การดำเนินการจุดนี้ทำให้นายดัสแซ็ก มองว่า สาเหตุเนื่องมาจากทางการจีนเชื่อว่าฟาร์มเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในเส้นทางการระบาดของเชื้อ กล่าวคือ การที่ไวรัสติดต่อจากค้างคาวไปยังสัตว์ตัวกลางไม่ทราบชนิดแล้วติดต่อไปยังมนุษย์ ทำให้ตนเชื่อว่า พื้นที่นี้อาจเป็นจุดที่ไวรัสติดสู่คน
สำหรับเหตุผลสนับสนุนนั้น ประการแรก คือ ฟาร์มเหล่านี้หลายแห่งกระจายตัวอยู่ทั่วมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่นักไวรัสวิทยาเคยพบไวรัสโคโรนาในค้างคาวที่มีความคล้ายคลึงของสารพันธุกรรมดีเอ็นเอกับ SARS-CoV-2 ถึงร้อยละ 96
ประการถัดมา คือ การที่ฟาร์มเหล่านี้ มีสัตว์ซึ่งเป็นพาหะของไวรัสโคโรนาตามธรรมชาติ เช่น ชะมด และตัวนิ่ม ส่วนประการสุดท้ายเป็นการพบหลักฐานใหม่ของทีม WHO ว่าฟาร์มเหล่านี้เองที่เป็นผู้ส่งสัตว์เหล่านี้มาจำหน่ายที่ตลาดค้าส่ง หัวหนาน ในนครอู่ฮั่น
โดยตลาดหัวหนานถูกตรวจพบว่าเป็นแหล่งระบาดแรกของโรคโควิด-19 และทางการจีนสั่งปิดตายตั้งแต่ 31 ธ.ค. 2562 หลังมีการตรวจพบโรคอุบัติใหม่ที่มีอาการคล้ายปอดบวม
ศาสตราจารย์ หลินฟา หวัง ผู้อำนวยการศูนย์โรคติดเชื้ออุบัติใหม่ วิทยาลัยแพทย์ ดยุค-เอ็นยูเอส ประเทศสิงคโปร์ หนึ่งในทีม WHO กล่าวว่า การระบาดอย่างรุนแรงน่าจะเกิดขึ้นที่ตลาดหัวหนานแน่นอน ทำให้นักวิทยาศาสตร์จีนเดินทางไปอู่ฮั่นเพื่อค้นหาไวรัส
“นักวิทย์จีนพบไวรัสจำนวนมากภายในส่วนที่ขายเนื้อสดของตลาดครับ เป็นผลบวกเจ้าไวรัสตัวนี้อื้อเลย แถมยังได้ไวรัสแบบตัวเป็นๆ มาเป็นตัวอย่างด้วย” ศ.หวัง ระบุ
ข้อมูลทั้งหมดข้างต้นทำให้นายดัสแซ็ก และทีม WHO มองตรงกันว่า ฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดังกล่าวเป็นส่วนเชื่อมโยงที่สมบูรณ์แบบระหว่างค้างคาวที่พบไวรัสต้นแบบของ SARS-CoV-2 ที่มณฑลยูนนาน และในพม่า ซึ่งเป็น “สัตว์มหารังโรค” (Super Reservoir) มีไวรัสหลายชนิดรวมถึงไวรัสโคโรนา กับตลาดค้าส่งในนครอู่ฮั่น แหล่งระบาดที่แรกที่ตรวจพบ
“ทางการจีนปิดเส้นทางการระบาดนี้เพราะมีเหตุผลครับ เหตุก็คือเมื่อตอนนั้น พวกเขาเชื่อว่าเส้นทางนี้น่าจะเป็นเส้นทางระบาดที่เป็นไปได้มากที่สุด และเมื่อรายงานของพวกเราออกมา พวกเราเองก็มองเช่นนั้น ไม่ต่างกันครับ” ดาสแซ็ก กล่าว
อย่างไรก็ดี ความพยายามในการค้นหาต้นตอของ SARS-CoV-2 ยังไม่จบสิ้น โดยนายดาสแซ็ก ระบุว่า ขั้นต่อไปนักวิทยาศาสตร์จะต้องหาให้พบว่า “สัตว์ตัวกลาง” ไม่ทราบชนิดนั้น คือ ตัวอะไรบ้าง และมาจากฟาร์มแห่งใด
ຊ່ອຍຈີນອີກແລ້ວອົງການອະນາໄມໂລກ !